Retinol Energy Renewal Serum
เรตินอล เอ็นเนอร์จี รีนิวอล เซรั่ม

Retinol 0.1%

เรตินอลคืออนุพันธ์ของวิตามินเอ (Vitamin A) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารกลุ่มเรตินอยด์ แล้วเรตินอลต่างจากเรตินอยด์อย่างไร? ง่ายๆ คือ ทั้งสองอย่างอยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่เรตินอลเป็นเวอร์ชันที่สามารถซื้อใช้เองได้และมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า ขณะที่เรตินอยด์มีความเข้มข้นสูงกว่าและมักถูกใช้เป็นส่วนผสมในยาที่แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังสั่งจ่ายเท่านั้น

เรตินอลมีคุณสมบัติในการช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยบนใบหน้า และยังสามารถช่วยรักษาสิวพร้อมทั้งลดการเกิดสิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Niacinamide 10%

ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดงและรอยดำ (hyperpigmentation) เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเซราไมด์ (ceramide) ซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นและสามารถต่อสู้กับสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคือง (irritants) ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดความมันบนใบหน้า (sebum excretion) ได้อีกด้วย

Pure Retinal 0.1%

วิตามินเอ (Vitamin A) ชนิด Retinal (หรือเรียกว่า Retinaldehyde) เป็นวิตามินเอ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ อ.ย. อนุญาติให้ใช้ในเครื่องสำอาง เนื่องจากสามารถแปลงเป็น Retionic Acid ได้ภายใน 1 กระบวนการตามธรรมชาติ โดย ผิว (สามารถแปลงได้เร็วกว่า Retinol จึงมีประสิทธิภาพ มากกว่า Retinol) ปัจจุบัน วิตามินเอ ยังเป็นส่วนผสมเครื่องสำอางชนิดเดียว ที่ ทางการแพทย์ ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพด้าน Anti-Aging และ สามารถลดริ้วรอยผิวได้

Pure-Bakuchiol 0.1%

เป็นสารสกัดจากเมล็ดของพืช Psoralea corylifolia หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Babchi โดยมีความบริสุทธิ์ของ Bakuchiol สูงกว่า 99% ปัจจุบันมีผลการทดลองระดับ in-vivo ที่ยืนยันว่า Bakuchiol สามารถออกฤทธิ์คล้ายกับเรตินอล แต่มีจุดเด่นคือไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

นอกจากนี้ Bakuchiol ยังสามารถใช้ร่วมกับเรตินอลดีไฮด์ (retinaldehyde) โดยจะช่วยทำให้เรตินอลมีความคงตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเสถียรของส่วนผสมอื่นๆ ที่มีแนวโน้มเสื่อมคุณภาพได้ง่าย ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้เติมในน้ำมันธรรมชาติเพื่อช่วยยืดอายุน้ำมันให้คงความสดใหม่มากขึ้น

Matrixyl 3000 3%

เป็นเปปไทด์ที่ผสมระหว่าง Pal-GHK และ Pal-GQPR ซึ่งช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ประกอบด้วย Matrikine สองชนิด คือ Pal-GHK (Palmitoyl-Glycyl-Histidyl-Lysine ซึ่งพบใน Biopeptide-CL) และ Pal-GQPR (Palmitoyl-Glycyl-Glutaminyl-Prolyl-Arginine ซึ่งพบใน Rigin)

Pal-GHK ประกอบด้วยส่วนของคอลลาเจนและไกลโคอะมิโนไกลแคน (GAG) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิวหนัง ช่วยให้ผิวมีความกระชับ ส่วน Pal-GQPR ประกอบด้วยส่วนของ Immunoglobulin G (IgG) ซึ่งช่วยลดปริมาณการสร้าง Interleukin 6 (IL-6) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นกระบวนการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมของผิว

โดยปกติ ร่างกายจะมีฮอร์โมน DHEA (Dehydroepiandosterone หรือ Youth hormone) ที่ช่วยควบคุม IL-6 และกระบวนการอักเสบ แต่เมื่ออายุมากขึ้น การผลิต DHEA จะลดลง การเสริมด้วย Pal-GQPR จะช่วยกระตุ้นการสร้าง IgG เพื่อทำหน้าที่แทน DHEA ในการลดการอักเสบและรักษาความอ่อนเยาว์ของผิว

Dipotassium 1%

Dipotassium Glycyrrhizate หรือสารสกัดจากรากชะเอมเทศ (Licorice Extract) มีคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้หรือระคายเคือง บรรเทาอาการแดงและการอักเสบของผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงและสามารถใช้ในการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นตัวสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวและทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

วิธีใช้ผลิตภัณฑ์ :

• ใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณประมาณ 2 ปั๊ม ทาให้ทั่วใบหน้าในตอนกลางคืน หลังขั้นตอนทำความสะอาดและเตรียมผิว หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก รอให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวก่อนลงเซรั่มและครีมบำรุงกลางคืนตามปกติ

• เมื่อเริ่มใช้เรตินอล บางคนอาจรู้สึกระคายเคือง เช่น ผิวแห้งตึงหรือมีรอยแดง ซึ่งถือเป็นอาการปกติเนื่องจากผิวกำลังปรับตัวต่อเรตินอล

• หากอาการระคายเคืองไม่ดีขึ้น ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์จนกว่าผิวจะกลับสู่สภาพปกติ หากเกิดอาการระคายเคือง ควรปฏิบัติดังนี้:

  • ประคบด้วยผ้าเย็นประมาณ 2-3 นาที เพื่อลดอาการระคายเคือง

  • ทาครีมกันแดดที่มี SPF เป็นประจำทุกวัน

  • หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด